หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

MLM Series One : (5) ธุรกิจทุนต่ำ เสี่ยงน้อย ได้ผลเร็ว

Money Loves Me Series One
ตอนที่ 5 : ธุรกิจทุนต่ำ เสี่ยงน้อย ได้ผลเร็ว


โรเบิร์ต คิโยซากิ เจ้าของหนังสือซีรี่ส์ดัง "พ่อรวยสอนลูก" บอกว่า มนุษย์เงินเดือน (E) สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจ (B) ด้วยงานที่ลงทุนต่ำ เสี่ยงน้อย ใช้เวลารวดเร็ว และยังทำงานประจำต่อไปได้อีก ... เห็นทางออกสู่ความมั่นและอิสรภาพทางการเงินแล้ว!!!

เขาสาธยายแจกแจงถึงเจ้าของธุรกิจว่ามีอยู่สามประเภท หนึ่งจากการสร้างบริษัทใหญ่ๆเช่น เดลล์คอมพิวเตอร์ หรือฮิวเลตต์แพคคาร์ด ซึ่งเริ่มต้นในหอพักนักศึกษาและในโรงรถ สองจากการซื้อระบบแฟรนไชส์มาบริหารอย่างแม็คโดนัลด์ สองประเภทดังกล่าวใช้เงินลงทุนก้อนโต ต้องใช้ทักษะความรู้ความสามารถประสบการณ์ทางธุรกิจ การตลาด การบริหาร การเงิน ฯลฯ  ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ ต้องกระโดดลงไปทำธุรกิจช่วงเริ่มต้นอย่างเต็มเวลา และเต็มไปด้วยความเสี่ยง อาจต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดความทุกข์ ก็เพราะแบบนี้ มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่จะสบายใจกว่าที่ผันตัวเองไปเป็นเพียงเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ (S)

มาถึงธุรกิจประเภทที่สามของ B ที่ลงทุนต่ำ เสี่ยงน้อย ใช้เวลารวดเร็ว และยังมีเงินจากงานประจำเข้าบัญชีธนาคารทุกเดือนให้อุ่นใจ นั่นคือ "ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย" (Network Marketing Business) หรือที่บ้านเราเรียกเหมารวมว่า "ขายตรง" แม้ความหมายไม่ตรงเสียทีเดียว มีความแตกต่างปลีกย่อยหลายจุด

ขายตรงเป็นอาชีพที่ใครๆรู้สึกยี้ ปิดประตูไม่ต้อนรับ พลักไสให้ไปไกลๆนี่แหละครับ โรเบิร์ต คิโยซากิ กลับมองว่าเป็นหนทางสร้างรายได้แบบ Passive Income เขาถึงขนาดแยกเขียนธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายออกมาหนึ่งเล่มเต็มๆชื่อ Rich Dad's the Business School for People who Like Helping People หรือชื่อไทย "โรงเรียนสอนธุรกิจ สำหรับคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น" หนาประมาณสองร้อยหน้า

เขาเขียนเล่มนี้ขึ้นมาเป็นลำดับที่ห้าของซีรี่ส์ "พ่อรวยสอนลูก" แนะนำให้ผู้คนก้าวเข้าสู่ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายทั้งที่ตัวเองไม่ได้ร่ำรวยขึ้นมาจากธุรกิจนี้ ว่ากันตามจริงเมื่อปี 1970 ช่วงที่เขากำลังก่อร่างสร้างตัว ทำทั้งงานประจำและธุรกิจส่วนตัว เพื่อนเคยชักชวนเขาให้เข้ามาทำธุรกิจดังกล่าว แต่เขาก็ไม่ได้สนใจและยอมรับว่า ไม่ได้คิดถึงธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายอีกเลยจนกระทั่งอีกสิบห้าปีต่อมา

โรเบิร์ต คิโยซากิ กล่าวว่า "การเป็นคนร่ำรวยไม่ใช่จะทำกันง่ายๆ กว่าผมจะเรียนรู้และได้ประสบการณ์จนสร้างธุรกิจสำเร็จขนาดนี้ ต้องใช้เวลามากกว่าสามสิบปี ต้องพบกับความล้มเหลวสองครั้ง แต่ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายจะมอบ 'ระบบธุรกิจสำเร็จรูป' แก่ผู้คนที่ต้องการควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง"

กุญแจดอกสำคัญไขสู่ความสำเร็จ ก็อยู่ในชื่อธุรกิจนี้อยู่แล้ว คือ "เครือข่าย" ... หลายคนใช้ประโยชน์จากพลังของเครือข่าย บางคนพึ่งพามันโดยไม่รู้สึกตัว บางคนรู้จักมันในชื่อ Connection อาศัยเลือดสีเดียวกันผ่านโรงเรียน มหาวิทยาลัย ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หลายคนเสียเงินลงเรียนหลักสูตรเพื่อสร้างคอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์ แฟรนไชน์อย่างร้านสะดวกซื้อเลข 7 รถเข็นบะหมี่เลข 4 ล้วนประสบความสำเร็จด้วยเครือข่าย เครือข่ายโทรศัพท์มือถือนี่ก็ใช่ คำว่า "ขยายเครือข่าย" ผ่านหูเราบ่อยครั้งจนไม่รู้สึกอะไร แต่เจ้าของธุรกิจตระหนักดีว่า เป็นตัวทำให้ประสบความสำเร็จ

"พ่อรวย" เคยพูดกับโรเบิร์ต คิโยซากิ ว่า "คนรวยมองหาวิธีสร้างเครือข่าย ขณะที่คนทั่วไปมองหางานทำ" ขณะที่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นอเมริกันผู้นี้เองก็บอกว่า "หลายบริษัทในอุตสหกรรมการตลาดแบบเครือข่าย พยายามเลี่ยงที่จะใช้คำว่า 'การตลาดแบบเครือข่าย' เพราะรู้สึกความหมายไปในทางลบ แต่ 'เครือข่าย" นี่แหละเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จทางด้านการเงินอย่างแท้จริง"


กูรูทางการเงินรับประกันขนาดนี้ น่าจะลองเปิดใจทำความรู้จักธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายสักยกสองยก ถ้ายังยี้อีก ก็โบกมือร่ำลา หันหลังกลับไปทำงานประจำรับเงินเดือนต่อไปยังได้ (ผมเคยยี้มาก่อน หลายครั้งด้วย) ... แต่อย่าลืม คุณสามารถทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายพร้อมกับงานประจำ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น